วิธีการและแนวทางในการลงทุน ของ วอร์เร็น บัฟเฟตต์

หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่งอย่างที่หลายๆ คนคิด มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการในการเลือกลงทุน มุ่งเน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?

พิจารณาลงทุนเฉพาะกิจการที่เราเข้าใจได้ เพราะไม่เช่นนั้น เราจะไม่สามารถที่จะค้นหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ ที่เราเป็นเจ้าของได้

มีกิจการที่ดีเพียงไม่กี่บริษัท ที่เราจะสามารถลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนสูง ในโลกนี้ประกอบไปด้วยธุรกิจที่ดีเด่น ธุรกิจที่แย่ และธุรกิจที่ไม่ดีไม่เลว จงจำกัดการค้นหาธุรกิจนั้นโดยมองย้อนไปถึงประวัติเก่าๆ ของกิจการนั้นๆ

“นักลงทุนควรที่จะคิดเสมอว่า การลงทุนนั้นเปรียบเสมือนการตัดสินใจครั้งสำคัญใน ชีวิตซึ่งมีได้เพียงยี่สิบครั้งเท่านั้น ดังนั้นการตัดสินใจทุกครั้ง จะต้องไตร่ตรองให้ดีเพราะหากพลาดไปจะเหลือโอกาส อีกไม่มาแล้ว”

ธุรกิจที่ดีจะเสมือนว่ามีทางด่วน ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายเพื่อข้ามไปสู่จุดหมายปลายทางที่เขาต้องการ และสิ่งนี้จะทำให้กิจการนั้นสามารถเติบโตได้ตลอดไป ดังตัวอย่างเช่น

  • บริษัท หลายบริษัทจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการของตัวเอง ซึ่งบริษัทโฆษณาก็จะสามารถได้รับผลประโยชน์ จากความต้องการโฆษณานี้ด้วย
  • ผู้ชาย ส่วนใหญ่จำเป็นต้องโกนหนวด และผู้หญิงก็อาจจะโกนขนขา สำหรับกิจการที่ผลิตมีดโกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างเช่น Gillette ซึ่งสามารถยึดคลองตลาดที่ไม่มีวันหดหายไปได้เลย และจะเติบโตไปตามการขยายตัวของจำนวนประชากรโลก

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มักจะมีคุณสมบัติต่างๆดังนี้

  1. ไม่ซับซ้อน (Simplicity) กิจการเหล่านี้จะเข้าใจได้ง่ายๆ และใช้การบริหารแบบธรรมดา
  2. ธุรกิจ เสมือนมีสิทธิพิเศษที่แข็งแกร่ง (Strong business franchises) ธุรกิจเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จาก ค่าความนิยมทางเศรษฐกิจ (Economic Goodwill) เช่นสามารถปรับราคาขึ้นได้โดยที่ลูกค้าไม่มีความขัดข้อง
  3. สามารถคาดการได้ (predictability) สามารถคาดการผลประกอบการได้อย่างมั่นใจ
  4. ผล ตอบแทนจากเงินทุนสูง (High return on Equity) สามารถที่จะมีผลตอบแทนจากเงินทุนได้สูงโดยไม่ต้องอาศัยการตบแต่งบัญชี (Creative Accounting) หรือการใช้เงินลงทุนจากการกู้ ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนนี้สำคัญกว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นที่หลายๆคนให้ความ สำคัญเสียอีก
  5. สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดี (Strong Cash Generation) เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องมีการลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อรักษาความสามารถในการแข่ง ขันให้สูงอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจที่แข็งแกร่งจริงจะใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถรักษาความสามารถ ในการแข่งขันได้อย่างมั่นคง
  6. อุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างมูลค่า ให้แก่ผู้ถือหุ้น (Devotion to Shareholder Value) การที่มีผู้บริหารที่ซื่อสัตย์ และมีฝีมือทุ่มแรงกายแรงใจให้แก่งานของบริษัท เพื่อสร้างมูลค่าให้กิจการตลอดเวลา

ในการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของ ธุรกิจจงจำไว้ว่า “ราคาคือสิ่งที่เราจ่าย มูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ” ดังนั้นการลงทุนใดๆเราต้องคำนึงถึงส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ระหว่างราคากับมูลค่าให้มากไว้ เพื่อหากว่าเราเกิดความผิดพลาดขึ้นก็ยังไม่ทำให้เราขาดทุนมาก

ในการ ประเมินมูลค่าที่แท้จริงนั้น วอร์เร็นมักจะใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสด (Discount Cash flow) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า DCF วิธีการนี้คือการประมาณกระแสเงินสดในอนาคตที่กิจการจะได้รับ และคิดลดกระแสเงินสดนั้นกลับมา ณ ปัจจุบัน โดยใช้อัตราคิดลดที่ปราศจากความเสี่ยง โดยเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล อาจจะเป็น 10 ปีหรือน้อยกว่านั้น ซึ่งผลที่ได้สามารถบอกเราได้ถึง ส่วนต่างของราคาปัจจุบันกับมูลค่าซึ่งนั่นก็ คือส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety)

ไม่สนในการเปลี่ยนแปลง ของตลาดหุ้น วอร์เร็นเคยพูดไว้ว่า “หลังจากที่ซื้อหุ้นแล้ว ผมจะไม่สนใจตลาดหุ้นเลยและถึงแม้ว่าตลาดหุ้นจะปิดทำการยาวนานถึง 10 ปีก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะว่า ผมมั่นใจธุรกิจที่ลงทุนไปแล้วนั้น มีมูลค่าที่แท้จริงของมัน ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องให้ตลาดหุ้นมารับรู้ด้วยก็ได้”
วอร์เร็นจะขายหุ้นก็ต่อเมื่อ

  • ถ้ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นตามอัตราที่ควรจะเป็น
  • ถ้ามูลค่าตลาดของกิจการเพิ่มสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่ประเมินได้มากจนเกินไป

บทความโดย นักเลงหุ้น